การซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพเพื่อลดหย่อนภาษี

ในแต่ละวันที่ออกจากบ้าน เราต่างต้องเจอกับความเสี่ยงมากมาย ทั้งอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด ตลอดจนมลพิษและสารเคมีที่อยู่ในอากาศ จนทำให้เรามีโอกาสที่จะล้มป่วยหรือได้รับบาดเจ็บทุกเมื่อ ดังนั้น การวางแผนรับมือกับความเสี่ยง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้อย่างอุ่นใจยิ่งขึ้น ซึ่ง "การทำประกัน" ก็ถือเป็นทางเลือกในการรับมือกับความเสี่ยงที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยมอบความคุ้มครองในการใช้ชีวิต ผลิตภัณฑ์ประกันยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ช่วยให้เรามีเงินเหลือเก็บเหลือใช้ในแต่ละปี และไม่ต้องสำรองเงินฉุกเฉินไว้ใช้ไปกับค่ารักษาพยาบาลอีกด้วย

บทความนี้เรามาพร้อมกับเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการลดหย่อนภาษีด้วยประกันชีวิตและประกันสุขภาพ มาดูกันว่า เบี้ยประกันสุขภาพและเบี้ยประกันชีวิตสามารถลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ และประกันแบบไหนบ้างที่น่าสนใจ คุ้มครองได้ครบ ลดหย่อนได้คุ้ม

การซื้อประกันชีวิตสามารถลดหย่อนภาษีได้จริงไหม ?

การซื้อประกันชีวิตสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้จริง โดยจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร และเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ซึ่งประกันชีวิตที่ลดหย่อนภาษีได้ มีอยู่ด้วยกันดังนี้ 

• ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ

ประกันที่เน้นคุ้มครองชีวิตระยะยาว โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต หรือมีชีวิตอยู่ครบตามสัญญา จุดเด่นของประกันชีวิตประเภทนี้คือ มีค่าเบี้ยประกันภัยไม่สูง และสามารถเลือกจ่ายเบี้ยได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ขึ้นอยู่กับความต้องการและควาสามารถของผู้เอาประกันภัย

• ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา 

ประกันที่เน้นคุ้มครองชีวิตในระยะสั้น ๆ โดยบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้แก่ผู้รับผลประโยชน์ เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิตเท่านั้น หากผู้เอาประกันมีชีวิตอยู่ถึงวันที่ครบกำหนด จะไม่ได้รับทุนประกันคืน 

• ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ 

ประกันชีวิตที่มอบความคุ้มครองควบคู่ไปกับการเก็บออมเงิน โดยผู้เอาประกันจะได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่กำหนดไว้

• ประกันชีวิตควบการลงทุน 

ประกันชีวิตที่มอบความคุ้มครองควบคู่ไปกับโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวม

• ประกันชีวิตแบบบำนาญ

ประกับชีวิตที่มอบความคุ้มครองในรูปแบบของเงินก้อนหลังเกษียณ โดยผู้เอาประกันต้องจ่ายเบี้ยไปจนถึงอายุที่กำหนดในสัญญา จากนั้นบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้เมื่อเกษียณ 

เบี้ยประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ ?

สิทธิลดหย่อนภาษีของประกันชีวิต สามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบดังนี้

• ประกันชีวิตแบบทั่วไป

  • ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ แบบชั่วระยะเวลา และแบบสะสมทรัพย์ สามารถนำเบี้ยประกันภัยไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท* ตามจำนวนที่จ่ายจริง  

  • ประกันชีวิตควบการลงทุน สามารถลดหย่อนภาษีได้ในส่วนของเบี้ยประกันภัยเท่านั้น แต่ส่วนที่นำไปลงทุนจะไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ 

• ประกันชีวิตแบบบำนาญ

  • ประกันชีวิตแบบบำนาญ สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาทต่อปี* ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ฉบับที่ 172 (ลดหย่อนสูงสุด 100,000 บาทต่อปี), ฉบับที่ 194 และฉบับที่ 261 (ลดหย่อนเพิ่มสูงสุด 200,000 บาทต่อปี) 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด 

**ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

ซื้อประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้ไหม ?

นอกจากประกันชีวิตแล้ว การซื้อประกันสุขภาพก็สามารถนำเบี้ยประกันภัยมาลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่แค่ประกันสุขภาพของตัวเองเท่านั้น แต่การซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่ ก็ยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย

เบี้ยประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ ?

• ประกันสุขภาพตัวเอง สามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 25,000 บาท* และเมื่อรวมกับค่าลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท

• ประกันสุขภาพพ่อแม่ สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท* โดยสามารถหารเฉลี่ยค่าเบี้ยประกันภัยตามจำนวนพี่น้องที่ร่วมจ่ายได้ 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด 

ประกันชีวิตและประกันสุขภาพจากโตเกียวมารีนประกันชีวิต ช่วยคุ้มครองคุณให้อุ่นใจ พร้อมลดหย่อนภาษีได้คุ้ม

จะเห็นได้ว่า การทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ไม่เพียงเป็นตัวช่วยสร้างหลักประกันให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่จะช่วยให้เรามีเงินเก็บมากขึ้นในทันทีอีกด้วย 

โตเกียวมารีนประกันชีวิต บริษัทประกันชีวิตและสุขภาพแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น ที่ดำเนินกิจการมานานกว่า 140 ปี และขยายเครือข่ายครอบคลุมไปมากกว่า 38 ประเทศทั่วโลก พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งในด้านการวางแผนชีวิต และสิทธิประโยชน์ทางภาษี สามารถแจ้งความต้องการในการซื้อประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพลดหย่อนภาษี เพื่อให้ตัวแทนของเรานำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันที่เหมาะกับคุณได้เลย