ก่อนที่จะรู้ถึง 4 วิธีลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา เรามาดูกันก่อนเลยว่าใครบ้างที่ต้องเสียภาษี และต้องมีรายได้เท่าไหร่จึงจะเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
การเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดา จะขึ้นอยู่กับรายได้ต่อปีของแต่ละบุคคล โดยประเทศไทยจะมีเกณฑ์และอัตราการเสียภาษีที่เป็นขั้นบันได ยิ่งมีรายได้ต่อปีมาก ภาษีที่เก็บก็จะแพงขึ้นด้วยตามลำดับ โดยใช้อัตราดังต่อไปนี้
● ยอดรายได้รวมต่ำกว่า 150,000 บาท/ปี ต้องเสียภาษี 0% หรือก็คือได้รับการงดเว้นไม่ต้องเสียภาษีนั่นเอง
● ยอดรายได้รวมตั้งแต่ 150,001 ถึง 300,000 บาท/ปี ต้องเสียภาษี 5% ของจำนวนรายได้
● ยอดรายได้รวมตั้งแต่ 300,001 ถึง 500,000 บาท/ปี ต้องเสียภาษี 10% ของจำนวนรายได้
● ยอดรายได้รวมตั้งแต่ 500,001 ถึง 750,000 บาท/ปี ต้องเสียภาษี 15% ของจำนวนรายได้
● ยอดรายได้รวมตั้งแต่ 750,001 ถึง 1,000,000 บาท/ปี ต้องเสียภาษี 20% ของจำนวนรายได้
● ยอดรายได้รวมตั้งแต่ 1,000,0001 ถึง 2,000,000 บาท/ปี ต้องเสียภาษี 25% ของจำนวนรายได้
● ยอดรายได้รวมตั้งแต่ 2,000,0001 ถึง 5,000,000 บาท/ปี ต้องเสียภาษี 30% ของจำนวนรายได้
● ยอดรายได้รวม 5,000,000 บาทขึ้นไป/ปี ต้องเสียภาษี 35% ของจำนวนรายได้
ใครที่ควรหาวิธีลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา
ผู้ที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทุกคน ล้วนแต่ควรหาวิธีลดหย่อนภาษีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เสียภาษี 5% หรือ 30% ก็ตาม เพราะแม้ว่าคุณจะมีรายได้รวมเพียง 150,001 บาทต่อปีที่เสียภาษีเพียง 5% ก็คิดเป็นเงินกว่า 7,500 บาทแล้ว ดังนั้น การนำค่าใช้จ่ายประเภทต่าง ๆ มาลดหย่อน จึงจะช่วยลดภาระค่าเสียภาษีให้คุณได้มากทีเดียว
เราสามารถใช้อะไรลดหย่อนภาษีได้บ้าง?
รายการที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้มีอยู่ทั้งหมด 4 กลุ่ม ดังต่อไปนี้
กลุ่มที่ 1 ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว
1. ค่าลดหย่อนส่วนตัว
จำนวน 60,000 บาท
2. ค่าลดหย่อนคู่สมรส
จำนวน 60,000 บาท เมื่อคู่สมรสไม่มีรายได้
3. ค่าลดหย่อนฝากครรภ์ และคลอดบุตร
ไม่เกินครรภ์ละ 60,000 บาท
4. ค่าลดหย่อนภาษีบุตร
คนละ 30,000 บาท
5. ค่าลดหย่อนสำหรับเลี้ยงดูบิดา-มารดาของตน และของคู่สมรส
คนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 4 คน
6. ค่าลดหย่อนภาษีกรณีอุปการะผู้พิการ หรือบุคคลทุพพลภาพ
คนละ 60,000 บาท